Lecture

บทที่ 5 ออกแบบระบบเนวิเกชั่น Designing Web Navigation

ความสำคัญ
        ช่วยให้ผู้ใช้ท่องเว็บได้อย่างคล่องตัวโดยไม่หลงทาง โดยทำให้ผู้ใช้สามารถรู้ได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน ได้ผ่านที่ใดมาบ้างและควรจะไปทางไหนต่อ
วัตถุประสงค์
    -ผู้ชมกำลังอยู่ส่วนใดของเว็บ
    -สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างไร
    -สามารถกลับไปยังหน้าเว็บเดิมได้อย่างไร
    -หน้าเว็บเพจใดที่ได้เยี่ยมชมข้อมูลแล้ว 
รูปแบบของเนวิเกชัน แบ่งเป็น4รูปแบบ
    1. ระบบเนวิเกชันแบบลำดับขั้น
    2. ระบบเนวิเกชันแบบโกลบอล
    3. ระบบเนวิเกชันแบบโลคอล
    4. ระบบเนวิเกชันเฉพาะที่
องค์ประกอบของระบบเนวิกเกชันหลัก (Main Navigation Elements)
        ระบบเนวิกเกชันที่สำคัญและพบได้มากที่สุดคือ เนวิเกชันที่อยู่ในหน้าเดียวกับเนื้อหา ไม่ใช่เนวิกเกชันที่อยู่ในหน้าแรก เนื่องจากเมื่อผู้ใช้ผ่านหน้าแรกเข้าไปสู่ภายในเว็บไซท์แล้ว ก็ไม่อยากจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่หน้าแรกทุกครั้งก่อนจะเข้าไปดูเนื้อหาในส่วนอื่นๆต่อ ระบบเนวิเกชันหลักทั้งแบบโกบอลและแบบโลคอล จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้ายจากหน้าใดๆ ไปสู่ส่วนอื่นในเว็บไซท์ได้อย่างคล่องตัว องค์ประกอบของเนวิกเกชันมีได้หลายรูปแบบ ได้แก่ เนวิเกชั่นบาร์ เนวิกเกชันเฟรม Pull down, menu, pop-up menu, image map และ search box


บทที่ 6 ออกแบบหน้าเว็บ Page Design
หลักสำคัญในการออกแบบหน้าเว็บ          
        คือ การใช้รูปภาพและองค์ประกอบต่างๆ ร่วมกัน เพื่อสื่อความหมายเกี่ยวกับเนื้อหาหรือลักษณะสำคัญของเว็บให้น่าสนใจ บนพื้นฐานของความเรียบง่ายและสะดวกของผู้ใช้

หลักการออกแบบหน้าเว็บ

    1. สร้างลำดับชั้นความสำคัญขององค์ประกอบ
    2. สร้างรูปแบบ บุคลิก สไตล์
    3. สร้างความสม่ำเสมอตลอดทั่วทั้งไซต์
    4. จัดวางองค์ประกอบที่สำคัญไว้ในส่วนบนของหน้า
    5. สร้างจุดสนใจด้วยความแตกต่าง
    6. จัดแต่งหน้าเว็บให้เป็นระเบียบและเรียบง่าย
    7. ใช้กราฟิกอย่างเหมาะสม
รูปแบบโครงสร้างหน้าเว็บ แบ่งเป็น 4 รูปแบบ     
    1. โครงสร้างหน้าเว็บในแนวตั้ง ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีรูปแบบที่ง่ายในการพัฒนาและมีขข้อจำกัดน้อยสุดเมื่อเทียบกับรูปแบบอื่น    
    2. โครงสร้างหน้าเว็บในแนวนอน ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์และความพยายามมากกว่าปรกติ เนื่องจากมีข้อจำกัดและสิ่งที่ต้องระวังค่อนข้างมาก     
    3. โครงสร้างหน้าเว็บที่พอดีหน้าจอ รูปแบบนี้ใช้พื้นที่น้อวกว่าเว็บทั่วไปและมักจะจัดอยู่ตรงกึ่งกลางของหน้าจอ จะไม่มี Scroll Bar
  
  4. โครงสร้างหน้าเว็บแบบสร้างสรรค์ รูปแบบนี้อยู่เหนือกฏเกณฑ์ มักมีรูปแบบและการจัดวางองค์ประกอบเฉพาะตัวที่คาดไม่ถึง มักจะเป็นเว็บของศิลปิน นักออกแบบ บริษัทโฆษณา

ส่วนประกอบของหน้าเว็บ แบ่งเป็น 3 ส่วน    
    1. ส่วนหัว (Page Header)    
    2. ส่วนเนื้อหา (Page Body)    
    3. ส่วนท้าย (Page Footer)

บทที่ 7  การออกแบบเว็บไซต์ให้เหมาะกับสิ่งแวดล้อม
(Design for a variety of Web Environments)

ปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องกับการท่องเว็บไซต์

    1.เบราเซอร์ที่ใช้
    2.ระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์
    3.ความละเอียดของหน้าจอ
    4.จำนวนสีที่จอของผู้ใช้สามารถแสดงได้
    5.ชนิดของตัวอักษรที่มีอยู่ในเครื่องของผู้ใช้
    6.ความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
    7.ขนาดหน้าต่างเบราเซอร์
    8.ความสว่างและค่าความต่างของโทนสี

1.เบราเซอร์ที่ใช้

        เบราเซอร์ที่ได้รับความนิยม  Internet Explorer,Netscape Navigator,The World,Opera,Mozilla,Firefox
การออกแบบเว็บไซต์ตามคุณสมบัติของเบราเซอร์
    - เว็บไซต์สำหรับเบราเซอร์ทุกรุ่น
    - เว็บไซต์สำหรับเบราเซอร์รุ่นล่าสุด
    - เว็บไซต์ตามความสามารถของเบราเซอร์
    - เว็บไซต์ที่มีหลายรูปแบบ

2. ระบบปฏิบัติการ

        ระบบปฏิบัติการเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการทำงานของเบราเซอร์มาก โดยแต่ละระบบปฏิบัติการจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของชนิด และรุ่นของเบราเซอร์ที่ใช้ ระดับความระเอียดของหน้าจอ เป็นต้น

3. ความละเอียดของหน้าจอ

      ความละเอียด 640*480 หมายถึง หน้าจอมีจุดพิกเซลเรียงตัวตามแนวนอน 640 พิกเซล และตามแนวตั้ง 480 พิกเซล   ความละเอียดหน้าจอจะไม่ขึ้นอยู่กับขนาดของมอนิเตอร์ที่ใช้ แต่จะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของการ์ด
4. จำนวนสีที่จอของผู้ใช้สามารถแสดงได้
   มอนิเตอร์สามารถแสดงสีที่แตกต่างกัน นอยู่กับประสิทธิภาพของการ์ดจอ
    - หน่วยความจำในการ์ดจอที่มากขึ้นจะทำให้สามารถแสดงสีได้มากขึ้น
    - จำนวนสีที่การ์ดจอสามารถแสดงได้ ขึ้นอยู่กับค่าความละเอียดของสีที่เรียกว่า bit depth หรือ color depth
ชุดสีสำหรับเว็บ หมายถึงชุดสีจำนวน 216 สีที่มีอยู่เหมือนกันในระบบปฏิบัติการ Windows และMac
5. ชนิดของตัวอักษรที่มีอยู่ในเครื่องของผู้ใช้
     เบราเซอร์จะแสดงฟอนต์ที่กำหนดไว้ในเว็บเพจได้ก้ต่อเมื่อคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นมีฟอนต์เหล่านั้นติดตั้งอยู่ในเครื่อง 
    -MS Sans Serif  VS Microsoft Sans Serif
    -MS Sans Serif เป็นฟอนต์แบบบิตแมพที่ออกแบบขึ้นจากจุดของพิกเซล โดยมีการออกแบบแต่ละตัวอักษรไว้เป็นขนาดที่แน่นอน
    -  Microsoft Sans Serif เป็นฟอนต์ที่มีโครงสร้างของอักขระแบบเวคเตอร์หรือลายเส้นโดยมีการออกแบบเอาท์ไลน์ไว้เพียงแบบเดีแต่สามารถปรับขนาดได้อย่างไม่จำกัด
ข้อดี
    -สามารถกำหนดลักษณะของตัวอักษรได้อย่างแน่นอน ทั้งขนาด สี และชนิด  
    -ผู้ชมทุกคนจะมองเห็นเหมือนกันหมด
ข้อเสีย
    -ใช้เวลาในการโหลดมากกว่า
    -ลำบากในการแก้ไขและเปลี่ยนแปลง
6. ความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
     ความเร็วของเน็ตจะมีผลต่อการแสดงผลของเว็บ ซึ่งจะมีหลายระดับ
    -ผู้ใช้ตามบ้านส่วนใหญ่จะใช้ความเร็ว 5 kbps
    -ในหน่วยงานบางแห่งอาจจะใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง เข่น ADSL, Cable modem ซึ่งมีความเร็วตั้งแต่ 128 Kbps ถึง 10 Mbps
7. ขนาดหน้าต่างเบราเซอร์
     ขนาดหน้าต่างของเบราเซอร์มีโอกาสที่จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นเท่าไหร่ก็ได้ตามความต้องการของผู้ใช้